จนตอนหลังกลับมาศึกษาใหม่ ว่าสาเหตุของผมร่วงเกิดจากอะไรบ้าง เท่าที่สังเกตุอาการของตัวเองจะมีอาการเกี่ยวกับต่อมลูกหมากโตด้วย อาการนี้จะเป็นในผู้ชายที่เริ่มมีอายุทุกคน แล้วผมก็จะบางตามมา จากนั้นผมก็เริ่มมองหาสมุนไพรผักผลไม้ ที่ช่วยลดอาการเกี่ยวกับต่อมลูกหมากโต โดยดูสรรพคุณในการบำรุงร่างกายลดอาการผมร่วงและลดการโตของต่อมลูกหมากไปในที่เดียว ซึ่งเจออยู่หลายตัวมาก
มาลงตัวที่ น้ำกระชาย (ปั่นเอง) กับน้ำมะเขือเทศ (กินของดอยคำเป็นกล่อง)
ทดลองกินไปอาทิตย์แรกก็เห็นผลเรื่องต่อมลูกหมากโตลดลง เลยทดลองกินต่อเนื่องเป็นเดือน
ปรากฎว่า ไม่มีอาการที่ปวดตรงอัณฑะ ขับปัสสาวะได้สุดไม่ตกค้าง ระบบขับถ่ายดีมาก ผิวก็ดีขึ้น ผมก็เริ่มกลับมาดกอีก ไปเสียเวลากับอาหารเสริมและยาที่ขายในราคาแสนแพงอยู่นาน สุดท้ายมาจบที่สมุนไพรและผลไม้บ้านๆ ของเราเอง ได้สุขภาพกลับมาทุกส่วน ในราคาที่ถูกมาก
ส่วนแชมพูที่ใช้สระผม ผมก็ใช้แชมพูที่เป็นสูตรดอกอัญชัน เพราะช่วยเรื่องการปลูกผมและทำให้ผมดก ซึ่งมันก็ได้ผลจริงๆ ผมดำเงามีน้ำหนักมากขึ้นเห็นได้ชัด
สรรพคุณเกี่ยวกับผมของอัญชัน
- น้ำอัญชันมีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
- เครื่องดื่มน้ำอัญชันช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายและเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย
- มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอยแห่งวัย
- ประโยชน์ของดอกอัญชัน มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง เพิ่มการไหลเวียนเลือด
- ดอกอัญชันมีฤทธิ์ในการละลายลิ่มเลือด
- ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบ
- ช่วยรักษาอาการผมร่วง (ดอก)
- อัญชันทาคิ้ว ทาหัว ใช้เป็นยาปลูกผม ปลูกขนช่วยให้ดกเดาเงางามยิ่งขึ้น (น้ำคั้นจากดอก)
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดเส้นเลือดอุดตัน
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
- อัญชันมีคุณสมบัติในการช่วยล้างสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย
- ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาฟาง ตาแฉะ (น้ำคั้นจากดอกสดและใบสด)
- ช่วยป้องกันโรคต้อกระจก ต้อหิน ตามเสื่อมจากโรคเบาหวาน (ดอก)
- ช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้น
- นำรากไปถูกับน้ำฝน นำมาใช้หยอดตาและหู (ราก)
- นำมาถูฟันแก้อาการปวดฟัน และทำให้ฟันแข็งแรง (ราก)
- ใช้เป็นยาระบาย แต่อาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ (เมล็ด)
- ใช้รากปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ (ราก,ใบ)
- แก้อาการปัสสาวะพิการ
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย
- น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
- ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
- มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตา
- มะเขือเทศ มีบีตาแคโรทีน และฟอสฟอรัสในปริมาณมาก
- มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิว ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบางๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
- ช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบางๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
- มะเขือเทศใช้นำมาทำเป็นน้ำผลไม้ โดยน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือ น้ํามะเขือเทศดอยคํา
- เป็นที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัด ซุป ยำต่างๆ เป็นต้น
- ช่วยใหร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคหอบหืดได้มากถึง 45%
- ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม หริออัลไซเมอร์
- ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
- มะเขือเทศมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
- ช่วยในระบบย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยในการขับถ่ายอุจจาระได้สะดวก
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา หรือเชื้อราที่ปาก
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
- ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ ในเพศหญิง
- ซอสมะเขือเทศหมักผม ด้วยการใช้มะเขือเทศหมักผมจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผม อันเนื่องมาจากการว่ายในน้ำในสระที่มีคลอรีน
- ซอสมะเขือเทศนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามเหมือนเดิมได้ ด้วยนำซอสมะเขือเทศมาถูแล้วล้างน้ำออก
- ซอสมะเขือเทศช่วยในการดับกลิ่นคาว เศษอาหาร กลิ่นปลาสลิดได้เหมือนกันนะ เพียงแค่เปิดฝาซอสทิ้งไว้ 1 คืนเท่านั้น
- ซอสมะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังจากการหกล้ม หรือถูดมีดบาดได้
สรรพคุณของกระชาย
- กระชาย สรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (ใบ)
- กระชายเหลือง สรรพคุณช่วยแก้ลมวิงเวียน แน่นหน้าอก
- ช่วยบำรุงกำลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ บำบัดโรคนกเขาไม่ขัน หรือโรคอีดี (Erectile Dysfunctional หรือ ED) (เหง้าใต้ดิน)
- ช่วย บำรุงหัวใจ ด้วยการใช้เหง้าและรากของกระชายนำมาปอกเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นตากแห้งแล้วบดจนเป็นผง และให้ใช้ผงแห้งที่เตรียมไว้ประมาณ 1 ช้อนชา นำมาชงกับน้ำร้อนครึ่งถ้วยชา แล้วรับประทานเพียงครั้งเดียว (เหง้า,ราก)
- ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยทำให้กระดูกไม่เปราะบาง
- ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย
- ช่วยบำรุงกำหนัด แก้อาการกามตายด้าน (เหง้าใต้ดิน)
- ช่วยบำรุงสมอง เพราะช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนกลางได้ดีมากขึ้น
- ช่วย ปรับสมดุลของความดันโลหิตในร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิตเมื่อความดันโลหิตสูง แต่เมื่อความดันโลหิตต่ำก็จะช่วยทำให้ความดันเพิ่มขึ้นจนเป็นปกติ
- สรรพคุณกระชายช่วยแก้โลหิตเป็นพิษ (ใบ)
- กระชาย สรรพคุณทางยาช่วยแก้โรคในปากและคอ เช่น ปากเปื่อย ปากแห้ง ปากเป็นแผล (ใบ,เหง้า)
- ช่วย แก้ฝ้าขาวในปาก ด้วยการใช้กระชายที่ล้างสะอาดนำมาบดแบบไม่ต้องปอกเปลือก แล้วใส่ในโถปั่นปั่นพอหยาบ แล้วนำมาใส่ขวดปิดฝาแช่ไว้ในตู้เย็น แล้วนำมากินก่อนอาหารครั้งละ 1 ช้อนชาเล็ก กินวันละ 3 มื้อก่อนอาหารประมาณ 15 นาทีสักประมาณ 1 อาทิตย์ (ราก)
- เหง้าใต้ดิน มีรสเผ็ดร้อนและขม มีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดท้อง มวนในท้อง อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ด้วยการใช้เหง้าและรากประมาณครึ่งกำมือ ถ้าสดให้ใช้ประมาณ 5-10 กรัม แต่ถ้าเป็นแห้งให้ใช้ประมาณ 3-5 กรัม แล้วนำมาต้มเอาน้ำดื่มแก้อการ หรือจะนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารไว้รับประทานก็ได้เช่นกัน (เหง้าใต้ดิน)
- ช่วย แก้อาการท้องร่วง ท้องเดิน ด้วยการใช้เหง้าสด 1-2 เหง้า ใช้เหง้าที่ปิ้งไฟแล้วนำมาฝนหรือตำผสมกับน้ำปูนใส หรือจะคั้นให้ข้นๆ แล้วนำมารับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนชาก็ได้ (เหง้า,ราก)
- ช่วยแก้บิด โดยใช้เหง้าสดประมาณ 2 เหง้า นำมาบดจนละเอียดแล้วเติมน้ำปูนใส คั้นเอาแต่น้ำมาดื่ม (เหง้าสด)
- ช่วยรักษาอาการท้องเดินในเด็ก (เหง้า,ราก)
- รากกระชาย สรรพคุณช่วยแก้โรคกระเพาะ (ราก)
- ช่วยแก้อาการบิดมูกเลือด (เหง้า,ราก)
- ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาการปัสสาวะพิการ (เหง้า,ราก)
- ช่วยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง ช่วยรักษาโรคไต ช่วยทำให้ไตทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ
- ช่วยรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะเกร็ง ซึ่งในกรณีนี้อาจจะต้องใช้เม็ดบัว ที่ต้มแล้วนำมารับประทานร่วมด้วย
- ช่วยแก้อาการไส้เลื่อนในเพศชาย
- ช่วยควบคุมไม่ให้ต่อมลูกหมากโต
- ช่วยบำรุงมดลูกของสตรี ป้องกันไม่ให้มดลูกโต
- แก้อาการตกขาว ช่วยขับระดูขาวของสตรี (เหง้า)
- ช่วยขับน้ำคาวปลาของสตรีหลังคลอดบุตร
- ใช้ เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้เหง้าสดประมาณ 60 กรัม (6-8 เหง้า) นำมาผสมกับเนื้อมะขามเปียกประมาณ 60 กรัม เกลือแกง 3 ช้อนแกง และนำมาตำแล้วต้มกับน้ำ 6 แก้ว แล้วเคี่ยวจนเหลือ 2 แก้ว นำมารับประทานครั้งละครึ่งแก้วก่อนนอน แล้วรับประทานติดต่อกันประมาณ 1 เดือนจนกว่าจะหาย (เหง้าใต้ดิน)
- ใบช่วยถอนพิษต่างๆ (ใบ)
- ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย ด้วยการใช้เหง้าหรือรากแก่ๆ นำมาหั่นเป็นแว่นบางๆ แล้วนำไปตากแห้งและนำมาชงกับน้ำดื่ม (ราก,เหง้า)
- ช่วยบำรุงเส้นเอ็นให้แข็งแรง
- เหง้าและรากใช้เป็นยาภายนอก สรรพคุณช่วยรักษาขี้กลาก ขี้เกลื้อน (เหง้า,ราก)
- ช่วย รักษาโรคน้ำกัดเท้า ด้วยการใช้รากกระชายทั้งเปลือกมาล้างแล้วผึ่งให้แห้ง ฝานเป็นแว่นๆ และนำไปบดให้เป็นผงหยาบๆ และใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวมาอุ่นในหม้อใบเล็กๆ เติมผงกระชายใช้น้ำมัน 3 เท่าของปริมาณกระชาย แล้วนำมาหุงด้วยไฟอ่อนๆ ราว 15-20 นาที แล้วกรองกระชายออก เก็บน้ำมันไว้ในขวดแก้วสีชานำมาใช้ทาบริเวณที่เป็น (ราก)
- ช่วยแก้ อาการคันหนังศีรษะจากเชื้อรา ด้วยการใช้น้ำมันดังกล่าว (จากสูตรรักษาโรคน้ำกัดเท้า) นำมาเข้าสูตรทำเป็นแชมพูสระผม หรือจะใช้น้ำมันกระชายโกรกผมแล้วนวดให้เข้าหนังศีรษะก็ได้ แล้วค่อยล้างออก (น้ำมันกระชาย)
- ช่วยรักษาฝีด้วยการใช้เหง้ากับรากมาตำให้ละเอียด แล้วนำมาทาหัวฝีที่บวมจะทำให้หายเร็วยิ่งขึ้น (เหง้า,ราก)
- เหง้ามีฤทธิ์ในการช่วยต้านเชื้อรา ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังและโรคในช่องปากดีพอสมควร (เหง้า)
- กระชายมีสารที่ออกฤทธิ์ช่วยต้านการก่อกลายพันธุ์ โดยการบริโภครากกระชายสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้
- กระชายมีสารที่ออกฤทธิ์ทำให้อนุมูลอิสระเป็นกลาง จึงมีผลช่วยลดความเสียหายของการเกิดอนุมูลอิสระภายในร่างกายได้
- กระชาย มีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ การบริโภคกระชายเป็นประจำอาจได้ผลคล้ายกับการกินยาแอสไพรินและอาจะช่วย ป้องกันการเกิดโรคที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบเรื้อรังภายในร่างกายได้
- งาน วิจับจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาพบว่าสารสกัดจากกระชายสามารถช่วยต้านการเสื่อมของกระดูกอ่อนในหลอด ทดลองได้ และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
- งานวิจัยในประเทศกานาพบว่าสาร Pinostrobin จากรากและใบมีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อ Plasmodium falciparum ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมาลาเรีย
- งานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์พบว่าสารสกัดคลอโรฟอร์มและเมทานอลจากรากของกระชายมีฤทธิ์ในการต้าน การเจริญเติบโตของเชื้อ Giardia intestinalis ซึ่งเป็นพยาธิเซลล์เดียวในลำไส้ ที่ก่อให้เกิดภาวะท้องเสีย ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- งาน วิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่าสาร Pinostrobin, Pinocembrin, Panduratin A และ Alpinetin ของกระชายนั้นมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียได้หลายชนิด
อยากจะบอกว่าการที่ผมร่วงมันก็มีปัจจัยเสริมหลายอย่าง ทั้งเรื่องกรรมพันธุ์และความเครียดด้วย
แต่ถ้าทำตามที่ผมบอกมันก็ช่วยชลอการสูญเสียเส้นผมไปได้อีก แถมได้สุขภาพดีขึ้นด้วย เพราะสูตรที่ผมทำก็คือกินเป็นอาหาร ไม่ใช่กินเป็นยา แต่แค่กินให้สม่ำเสมอก็จะเห็นผลในอาทิตย์แรกแล้ว เพราะสารอาหารในกระชายและมะเขือเทศที่ผมแนะนำก็ช่วยเรื่องเส้นผมและระบบในร่างกายได้ดีอยู่แล้ว
No comments:
Post a Comment