Tuesday, May 12, 2015

แก้ผมร่วงโดยวิธีธรรมชาติ ประหยัดและได้ผลแน่นอน

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องผมร่วงจนผมบาง ด้วยเพราะอายุเริ่มเข้าเลขสี่ เคยลองหาวิธีมาแล้วมากมาย ทั้งยาทาและยากิน สรุปเลยว่าไม่ได้ผลเท่าที่ควรและสิ้นเปรืองเงินมากมาย

จนตอนหลังกลับมาศึกษาใหม่ ว่าสาเหตุของผมร่วงเกิดจากอะไรบ้าง เท่าที่สังเกตุอาการของตัวเองจะมีอาการเกี่ยวกับต่อมลูกหมากโตด้วย อาการนี้จะเป็นในผู้ชายที่เริ่มมีอายุทุกคน แล้วผมก็จะบางตามมา จากนั้นผมก็เริ่มมองหาสมุนไพรผักผลไม้ ที่ช่วยลดอาการเกี่ยวกับต่อมลูกหมากโต โดยดูสรรพคุณในการบำรุงร่างกายลดอาการผมร่วงและลดการโตของต่อมลูกหมากไปในที่เดียว ซึ่งเจออยู่หลายตัวมาก

มาลงตัวที่ น้ำกระชาย (ปั่นเอง) กับน้ำมะเขือเทศ (กินของดอยคำเป็นกล่อง)
ทดลองกินไปอาทิตย์แรกก็เห็นผลเรื่องต่อมลูกหมากโตลดลง เลยทดลองกินต่อเนื่องเป็นเดือน
ปรากฎว่า ไม่มีอาการที่ปวดตรงอัณฑะ ขับปัสสาวะได้สุดไม่ตกค้าง ระบบขับถ่ายดีมาก ผิวก็ดีขึ้น ผมก็เริ่มกลับมาดกอีก ไปเสียเวลากับอาหารเสริมและยาที่ขายในราคาแสนแพงอยู่นาน สุดท้ายมาจบที่สมุนไพรและผลไม้บ้านๆ ของเราเอง ได้สุขภาพกลับมาทุกส่วน ในราคาที่ถูกมาก

ส่วนแชมพูที่ใช้สระผม ผมก็ใช้แชมพูที่เป็นสูตรดอกอัญชัน เพราะช่วยเรื่องการปลูกผมและทำให้ผมดก ซึ่งมันก็ได้ผลจริงๆ ผมดำเงามีน้ำหนักมากขึ้นเห็นได้ชัด

สรรพคุณเกี่ยวกับผมของอัญชัน
  1. น้ำอัญชันมีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
  2. เครื่องดื่มน้ำอัญชันช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายและเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย
  3. มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอยแห่งวัย
  4. ประโยชน์ของดอกอัญชัน มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง เพิ่มการไหลเวียนเลือด
  5. ดอกอัญชันมีฤทธิ์ในการละลายลิ่มเลือด
  6. ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบ
  7. ช่วยรักษาอาการผมร่วง (ดอก)
  8. อัญชันทาคิ้ว ทาหัว ใช้เป็นยาปลูกผม ปลูกขนช่วยให้ดกเดาเงางามยิ่งขึ้น (น้ำคั้นจากดอก)
  9. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดเส้นเลือดอุดตัน
  10. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
  11. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
  12. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
  13. อัญชันมีคุณสมบัติในการช่วยล้างสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย
  14. ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาฟาง ตาแฉะ (น้ำคั้นจากดอกสดและใบสด)
  15. ช่วยป้องกันโรคต้อกระจก ต้อหิน ตามเสื่อมจากโรคเบาหวาน (ดอก)
  16. ช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้น
  17. นำรากไปถูกับน้ำฝน นำมาใช้หยอดตาและหู (ราก)
  18. นำมาถูฟันแก้อาการปวดฟัน และทำให้ฟันแข็งแรง (ราก)
  19. ใช้เป็นยาระบาย แต่อาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ (เมล็ด)
  20. ใช้รากปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ (ราก,ใบ)
  21. แก้อาการปัสสาวะพิการ
ประโยชน์ของมะเขือเทศ
  1. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน
  2. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย
  3. น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
  4. ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
  5. มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตา
  6. มะเขือเทศ มีบีตาแคโรทีน และฟอสฟอรัสในปริมาณมาก
  7. มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิว ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบางๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
  8. ช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบางๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
  9. มะเขือเทศใช้นำมาทำเป็นน้ำผลไม้ โดยน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือ น้ํามะเขือเทศดอยคํา
  10. เป็นที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัด ซุป ยำต่างๆ เป็นต้น
  11. ช่วยใหร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคหอบหืดได้มากถึง 45%
  12. ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม หริออัลไซเมอร์
  13. ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน
  14. ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
  15. มะเขือเทศมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ
  16. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
  17. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
  18. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
  19. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
  20. ช่วยในระบบย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยในการขับถ่ายอุจจาระได้สะดวก
  21. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา หรือเชื้อราที่ปาก
  22. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
  23. ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ
  24. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ ในเพศหญิง
  25. ซอสมะเขือเทศหมักผม ด้วยการใช้มะเขือเทศหมักผมจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผม อันเนื่องมาจากการว่ายในน้ำในสระที่มีคลอรีน
  26. ซอสมะเขือเทศนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามเหมือนเดิมได้ ด้วยนำซอสมะเขือเทศมาถูแล้วล้างน้ำออก
  27. ซอสมะเขือเทศช่วยในการดับกลิ่นคาว เศษอาหาร กลิ่นปลาสลิดได้เหมือนกันนะ เพียงแค่เปิดฝาซอสทิ้งไว้ 1 คืนเท่านั้น
  28. ซอสมะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังจากการหกล้ม หรือถูดมีดบาดได้

สรรพคุณของกระชาย
  1. กระชาย สรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ
  2. ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (ใบ)
  3. กระชายเหลือง สรรพคุณช่วยแก้ลมวิงเวียน แน่นหน้าอก
  4. ช่วยบำรุงกำลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ บำบัดโรคนกเขาไม่ขัน หรือโรคอีดี (Erectile Dysfunctional หรือ ED) (เหง้าใต้ดิน)
  5. ช่วย บำรุงหัวใจ ด้วยการใช้เหง้าและรากของกระชายนำมาปอกเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นตากแห้งแล้วบดจนเป็นผง และให้ใช้ผงแห้งที่เตรียมไว้ประมาณ 1 ช้อนชา นำมาชงกับน้ำร้อนครึ่งถ้วยชา แล้วรับประทานเพียงครั้งเดียว (เหง้า,ราก)
  6. ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยทำให้กระดูกไม่เปราะบาง
  7. ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย
  8. ช่วยบำรุงกำหนัด แก้อาการกามตายด้าน (เหง้าใต้ดิน)
  9. ช่วยบำรุงสมอง เพราะช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนกลางได้ดีมากขึ้น
  10. ช่วย ปรับสมดุลของความดันโลหิตในร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิตเมื่อความดันโลหิตสูง แต่เมื่อความดันโลหิตต่ำก็จะช่วยทำให้ความดันเพิ่มขึ้นจนเป็นปกติ
  11. สรรพคุณกระชายช่วยแก้โลหิตเป็นพิษ (ใบ)
  12. กระชาย สรรพคุณทางยาช่วยแก้โรคในปากและคอ เช่น ปากเปื่อย ปากแห้ง ปากเป็นแผล (ใบ,เหง้า)
  13. ช่วย แก้ฝ้าขาวในปาก ด้วยการใช้กระชายที่ล้างสะอาดนำมาบดแบบไม่ต้องปอกเปลือก แล้วใส่ในโถปั่นปั่นพอหยาบ แล้วนำมาใส่ขวดปิดฝาแช่ไว้ในตู้เย็น แล้วนำมากินก่อนอาหารครั้งละ 1 ช้อนชาเล็ก กินวันละ 3 มื้อก่อนอาหารประมาณ 15 นาทีสักประมาณ 1 อาทิตย์ (ราก)
  14. เหง้าใต้ดิน มีรสเผ็ดร้อนและขม มีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดท้อง มวนในท้อง อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ด้วยการใช้เหง้าและรากประมาณครึ่งกำมือ ถ้าสดให้ใช้ประมาณ 5-10 กรัม แต่ถ้าเป็นแห้งให้ใช้ประมาณ 3-5 กรัม แล้วนำมาต้มเอาน้ำดื่มแก้อการ หรือจะนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารไว้รับประทานก็ได้เช่นกัน (เหง้าใต้ดิน)
  15. ช่วย แก้อาการท้องร่วง ท้องเดิน ด้วยการใช้เหง้าสด 1-2 เหง้า ใช้เหง้าที่ปิ้งไฟแล้วนำมาฝนหรือตำผสมกับน้ำปูนใส หรือจะคั้นให้ข้นๆ แล้วนำมารับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนชาก็ได้ (เหง้า,ราก)
  16. ช่วยแก้บิด โดยใช้เหง้าสดประมาณ 2 เหง้า นำมาบดจนละเอียดแล้วเติมน้ำปูนใส คั้นเอาแต่น้ำมาดื่ม (เหง้าสด)
  17. ช่วยรักษาอาการท้องเดินในเด็ก (เหง้า,ราก)
  18. รากกระชาย สรรพคุณช่วยแก้โรคกระเพาะ (ราก)
  19. ช่วยแก้อาการบิดมูกเลือด (เหง้า,ราก)
  20. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาการปัสสาวะพิการ (เหง้า,ราก)
  21. ช่วยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง ช่วยรักษาโรคไต ช่วยทำให้ไตทำงานได้ดียิ่งขึ้น
  22. ช่วยป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ
  23. ช่วยรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะเกร็ง ซึ่งในกรณีนี้อาจจะต้องใช้เม็ดบัว ที่ต้มแล้วนำมารับประทานร่วมด้วย
  24. ช่วยแก้อาการไส้เลื่อนในเพศชาย
  25. ช่วยควบคุมไม่ให้ต่อมลูกหมากโต
  26. ช่วยบำรุงมดลูกของสตรี ป้องกันไม่ให้มดลูกโต
  27. แก้อาการตกขาว ช่วยขับระดูขาวของสตรี (เหง้า)
  28. ช่วยขับน้ำคาวปลาของสตรีหลังคลอดบุตร
  29. ใช้ เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้เหง้าสดประมาณ 60 กรัม (6-8 เหง้า) นำมาผสมกับเนื้อมะขามเปียกประมาณ 60 กรัม เกลือแกง 3 ช้อนแกง และนำมาตำแล้วต้มกับน้ำ 6 แก้ว แล้วเคี่ยวจนเหลือ 2 แก้ว นำมารับประทานครั้งละครึ่งแก้วก่อนนอน แล้วรับประทานติดต่อกันประมาณ 1 เดือนจนกว่าจะหาย (เหง้าใต้ดิน)
  30. ใบช่วยถอนพิษต่างๆ (ใบ)
  31. ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย ด้วยการใช้เหง้าหรือรากแก่ๆ นำมาหั่นเป็นแว่นบางๆ แล้วนำไปตากแห้งและนำมาชงกับน้ำดื่ม (ราก,เหง้า)
  32. ช่วยบำรุงเส้นเอ็นให้แข็งแรง
  33. เหง้าและรากใช้เป็นยาภายนอก สรรพคุณช่วยรักษาขี้กลาก ขี้เกลื้อน (เหง้า,ราก)
  34. ช่วย รักษาโรคน้ำกัดเท้า ด้วยการใช้รากกระชายทั้งเปลือกมาล้างแล้วผึ่งให้แห้ง ฝานเป็นแว่นๆ และนำไปบดให้เป็นผงหยาบๆ และใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวมาอุ่นในหม้อใบเล็กๆ เติมผงกระชายใช้น้ำมัน 3 เท่าของปริมาณกระชาย แล้วนำมาหุงด้วยไฟอ่อนๆ ราว 15-20 นาที แล้วกรองกระชายออก เก็บน้ำมันไว้ในขวดแก้วสีชานำมาใช้ทาบริเวณที่เป็น (ราก)
  35. ช่วยแก้ อาการคันหนังศีรษะจากเชื้อรา ด้วยการใช้น้ำมันดังกล่าว (จากสูตรรักษาโรคน้ำกัดเท้า) นำมาเข้าสูตรทำเป็นแชมพูสระผม หรือจะใช้น้ำมันกระชายโกรกผมแล้วนวดให้เข้าหนังศีรษะก็ได้ แล้วค่อยล้างออก (น้ำมันกระชาย)
  36. ช่วยรักษาฝีด้วยการใช้เหง้ากับรากมาตำให้ละเอียด แล้วนำมาทาหัวฝีที่บวมจะทำให้หายเร็วยิ่งขึ้น (เหง้า,ราก)
  37. เหง้ามีฤทธิ์ในการช่วยต้านเชื้อรา ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังและโรคในช่องปากดีพอสมควร (เหง้า)
  38. กระชายมีสารที่ออกฤทธิ์ช่วยต้านการก่อกลายพันธุ์ โดยการบริโภครากกระชายสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้
  39. กระชายมีสารที่ออกฤทธิ์ทำให้อนุมูลอิสระเป็นกลาง จึงมีผลช่วยลดความเสียหายของการเกิดอนุมูลอิสระภายในร่างกายได้
  40. กระชาย มีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ การบริโภคกระชายเป็นประจำอาจได้ผลคล้ายกับการกินยาแอสไพรินและอาจะช่วย ป้องกันการเกิดโรคที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบเรื้อรังภายในร่างกายได้
  41. งาน วิจับจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาพบว่าสารสกัดจากกระชายสามารถช่วยต้านการเสื่อมของกระดูกอ่อนในหลอด ทดลองได้ และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
  42. งานวิจัยในประเทศกานาพบว่าสาร Pinostrobin จากรากและใบมีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อ Plasmodium falciparum ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมาลาเรีย
  43. งานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์พบว่าสารสกัดคลอโรฟอร์มและเมทานอลจากรากของกระชายมีฤทธิ์ในการต้าน การเจริญเติบโตของเชื้อ Giardia intestinalis ซึ่งเป็นพยาธิเซลล์เดียวในลำไส้ ที่ก่อให้เกิดภาวะท้องเสีย ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  44. งาน วิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่าสาร Pinostrobin, Pinocembrin, Panduratin A และ Alpinetin ของกระชายนั้นมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียได้หลายชนิด

อยากจะบอกว่าการที่ผมร่วงมันก็มีปัจจัยเสริมหลายอย่าง ทั้งเรื่องกรรมพันธุ์และความเครียดด้วย
แต่ถ้าทำตามที่ผมบอกมันก็ช่วยชลอการสูญเสียเส้นผมไปได้อีก แถมได้สุขภาพดีขึ้นด้วย เพราะสูตรที่ผมทำก็คือกินเป็นอาหาร ไม่ใช่กินเป็นยา แต่แค่กินให้สม่ำเสมอก็จะเห็นผลในอาทิตย์แรกแล้ว เพราะสารอาหารในกระชายและมะเขือเทศที่ผมแนะนำก็ช่วยเรื่องเส้นผมและระบบในร่างกายได้ดีอยู่แล้ว







No comments:

Post a Comment

Popular Posts