Monday, April 25, 2011

FW: แจ้งเตือนเตรียมรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหว2 (ข่าวลงมติชนด้วย)‏

(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและวิเคราะห์นะครับ ได้รับมาอีกที่ เลยเอามาแจ้งเตือนเผื่อจะเกิด หรือไม่เกิดก็ขอให้พึงระวังไว้)


สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด หมู่ที่ ๙
                                                                                      ตำบลทุ่งระยะ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
                                                                       
                                                         ๑๖   มีนาคม ๒๕๕๔


เรื่อง  แจ้งเตือนเตรียมรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ซึนามิ

เจริญพร  ท่านผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

            อาตมาภาพ พระภิกษุกัมมัฏฐาน ปวตฺตโน  มี ความประสงค์จะแจ้งเตือนภัยพิบัติอันเป็นผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้น ในพื้นที่จังหวัดของท่าน เนื่องด้วยแหล่งข่าวไกล้ชิดของอาตมาภาพที่มีความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ สูงในวงของผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนา ได้แจ้งเตือนภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ทั้งในและต่างประเทศ กับอาตมาภาพไว้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไว้คือ

-          จะ เกิดแผ่นดินไหวแถบเทือกเขาตะนาวศรี จังหวัดราชบุรี ราว ๆ กลางปี ๒๕๕๔จะส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในจังหวัดราชบุรีเป็นวงกว้าง
-          จะเกิดแผ่นดินไหวที่กรุงเวียงจันทร์ ประเทศลาว  (เกิดขึ้นจริงแล้ว)
-          จะเกิดแผ่นไหว และเกิดซึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น (เกิดขึ้นจริงแล้ว)
-          จะเกิดแผ่นดินไหวและแผ่นดินถล่มตัวที่จังหวัดเชียงใหม่  (จะเกิดก่อนเดือนมิถุนายน และจะเป็นข่าวใหญ่)
-          *** จะเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ซึนามิ ส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคใต้ ๓ระลอก ภายในปี ๒๕๕๔ นี้ คือ

              ระลอกที่      ช่วงวันที่ ๔ - ๑๕  มิถุนายน  ๕๔  โดยจะเกิดแผ่นดินไหวแถบทะเลอันดามันประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ ๕ ทุ่ม และเกิดคลื่นยักษ์ซึนามิที่มีความรุนแรงมากกว่าปี ๔๗
คลื่นเดินทางถึงชายฝั่งประเทศไทย เวลา ตี ๒   ๕๐ นาที   
            
              จังหวัดที่ได้รับการปะทะโดยตรงจากคลื่นซึนามิในระลอกแรก
                      ๑.กระบี่           ๔.ภูเก็ต
                      ๒.ตรัง             ๕.พังงา
                      ๓.สตูล            ๖.ระนอง
                   
              จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวโดยเกิดแผ่นดินถล่ม,ยุบตัว และน้ำที่ดันขึ้นมาจากโพรงใต้ดิน   (โพรง หรืออุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่เกิดจากแรงแผ่นดินไหว และการเคลื่อนของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งปัจจุบันแหล่งข่าวกล่าวว่าเกิดขึ้นแล้วเป็นแนวยาวผ่านตั้งแต่ภาคใต้จน ถึงภาคกลางของประเทศไทย) โดยมีความเสียหายหลายจังหวัด คือ
              ๑.     นครศรีธรรมราช  
              ๒.    สงขลา  (หนักที่หาดใหญ่)
              ๓.     พัทลุง
              ๔.    ชุมพร

                 แผ่นดินไหวครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง สู่หลาย ๆ ประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย  มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย พม่า รวมถึงประเทศรอบ ๆ ทะเลอันดามันประเทศไทยจะเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาก เนื่องจากความประมาทของเจ้าหน้าที่และประชาชน   แต่บางประเทศเช่นอินเดียสามารถอพยพได้ทันเพราะมีเวลาเตรียมตัวหลังจากทราบเหตุการแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์ซึนามิ
               
              ***  แหล่งข่าวบอกว่าระบบแจ้งเตือนภัยซึนามิที่ติดตั้งไว้ในทะเลอันดามัน ถึงเวลาจริง ๆ ไม่ได้แจ้งเตือนเพราะระบบขัดข้อง

                 ระลอกที่ ๒  จะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ครั้งแรกประมาณ ๑ เดือนโดยแหล่งข่าวบอกว่า เก็บกู้ความเสียหายยังไม่ทันเสร็จระลอกใหม่ก็เกิดขึ้นอีก   *** เหตุการณ์จะรุนแรงกว่าระลอกแรก โดยมีความรุนแรงมากที่สุดในสามระลอก จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นทั้งสองฝั่งคือทั้งอ่าวไทยและอันดามัน

              ระลอกที่ ๓  จะเกิดขึ้นระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนธันวาคม  ๒๕๕๔  มีความรุนแรงน้อยกว่าระลอกที่สอง ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน

                 *** แหล่งข่าวระบุว่า ผลกระทบของแผ่นดินไหวจะส่งผลเป็นลูกโซ่ (สู่เหตุการณ์ต่าง ๆ ) และจะมีข่าวปรากฏในสื่อว่า พายุ...-..เซิร์ส  (อาตมาไม่เข้าใจ แต่ได้ยินมาว่าเคยเกิดขึ้นแถบ ๆ อเมริกา มีความรุนแรงมาก กรุณาศึกษาเพิ่มเติม)

             ขออนุญาติแจ้งเหตุการณ์ปี ๒๕๕๔ ที่สำคัญ ๆ  ไว้ เพียงเท่านี้ แต่ที่ได้รับแจ้งมาจากแหล่งข่าวนั้น ในปีหน้า ๒๕๕๕ มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับภัยธรรมชาติซึ่งส่งผลกระทบต่อมนุษย์อย่างรุนแรงและ แปลกประหลาดอีกหลายเหตุการณ์ ซึ่งจะแจ้งเตือนในคราวต่อไป

               ใน การทำหนังสือแจ้งเตือนมาในครั้งนี้ อาตมาภาพทราบดีว่าจะเกิดความตื่นตระหนก และความลังเลสงสัยต่อท่านและผู้ที่รับทราบเพราะเป็นเหตุการณ์ในอนาคต พ้นวิสัยการรู้เห็นโดยทั่วไปของมนุษย์เรา
การ แจ้งเตือนครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวอาตมาภาพเองเลย ซ้ำอาจจะเกิดโทษดังเช่นกรณีของคุณสมิทธ ธรรมสโรช ที่ออกมาเตือนเรื่องโอกาสที่จะเกิดซึนามิในฝั่งทะเลอันดามัน ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้โจมตีการแจ้งเตือนของคุณสมิทธอย่างมาก  ซึ่ง ท้ายที่สุดเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริง ๆ โดยไม่ได้เตรียมการรับมือ เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งขณะนั้นอาตมาภาพยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ ๓ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เดินทางร่วมกับคณะเพื่อนนักศึกษาไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดพังงา เดินทางถึงวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๔๗ และอยู่เป็นอาสาสมัครอยู่ในทีมพิสูจน์ศพของทีมแพทย์ศิริราชและแพทย์รามาที่ วัดบางม่วงและวัดย่านยาว ได้เกิดความสังเวชที่ได้เห็นพี่น้องชาวไทยและต่างประเทศลูกเด็กเล็กแดงล้ม ตายเป็นจำนวนมากแต่ในการเพียรพยายามทำหนังสือแจ้งเตือนมายังท่านและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการป้องกันและรับมือภัยพิบั
           
              อาตมา ภาพได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวซึ่งเป็นเพื่อนสหธรรมมิกโยคาวจรของอาตมาภาพ ราว ๆ ต้นเดือนมีนาคม ๕๔ ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อได้รับแจ้งแล้วก็เกิดความตระหนกเกิดขึ้นและเกิดความสงสารในชะตา กรรมเพื่อนร่วมโลก แต่ก็คิดว่าจะวางอุเบกขาเพราะเราช่วยอะไรไม่ได้มากเพราะไม่ได้มีอำนาจ หน้าที่และเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ใด ๆ และเรื่องประเภทนี้พูดไป จะเป็นโทษกับตนคือคนจะหาว่าบ้า ดังนั้นจึงไม่ได้ทำอะไรมาก นอกจากบอกบุคคลไกล้ชิด แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่นิวซีแลน เวียงจันทร์และที่ญี่ปุ่นซึ่งเกิดขึ้นจริงดังคำแจ้งเตือนของแหล่งข่าวเพื่อน สหธรรมมิก  เมื่อเห็นความสูญเสียในชีวิตที่เกิดขึ้น เป็นหมื่น ๆ คน เกิดความรู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก จึงใคร่ครวญและปรึกษากับแหล่งข่าวที่เป็นเพื่อนสหธรรมมิก ว่าจะตัดสินใจทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อปกป้องชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วย กัน คิดอย่างหนึ่งว่า ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นมีคนเสียชีวิตม

              อาตมา ภาพหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะรับฟังและพิจจารณาในคำเตือนในสิ่งที่อาตมาภาพและเพื่อนสหธรรมมิกแจ้ง เตือนมานี้ เพื่อความไม่ประมาทและทำทุกอย่างเพื่อปกป้องชีวิตเพื่อนมนุษย์และรับมือกับ เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
*** สิ่ง หนึ่งที่จะยืนยันว่าสิ่งที่แจ้งเตือนเป็นจริงหรือไม่ในภาคใต้คือ ก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ภาคใต้ จะเกิดแผ่นดินไหวและแผ่นดินยุบตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ยินว่าจะเป็นข่าวใหญ่ทางสื่อ ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นเครื่องยันยันได้ว่าเหตุการณ์ที่ภาคใต้จะเกิดขึ้นจริง และให้เตรียมรับมือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น แต่สำหรับตัวอาตมาภาพนั้น หมดความสงสัยไปนานแล้วและยากที่จะอธิบาย นอกจากจะพิสูจน์ด้วยตนเอง
สำหรับ รายละเอียดของเหตุการณ์นั้น แหล่งข่าวเพื่อนสหธรรมมิกท่านทราบละเอียดอีกมากที่ได้แจ้งให้อาตมาภาพได้ ทราบ และปัจจุบันพำนักปฏิบัติธรรมอยู่ที่เดียวกัน อาตมาภาพและเพื่อนสหธรรมิกพร้อมจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมและร่วมดำเนินการรับมือ กับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นร่วมกับท่านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามกำลังและวิธีการที่จะช่วยได้ โดยสามารถติดต่อมายังอาตมาภาพ  หรือเดินทางมาสอบถามด้วยตนเอง ที่สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอดโดยอาตมาภาพไม่ต้องการให้จดหมายแจ้งเตือนนี้ปรากฏสู่สาธารณะ อันจะปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่าง ๆ

             ประเทศ ไทยโชคดีอยู่อย่างหนึ่งคือเป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง มีผู้มีบุญบารมีลงมาเกิดเพื่อบำเพ็ญเพียรหรือสะสมบุญบารมีอยู่มาก และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองดูแลรักษาชาวพุทธและประเทศไทย เพื่อให้พระศาสนาดำรงอยู่จนตลอดอายุพระศาสนาคือ ๕,๐๐๐ ปี และการแจ้งเตือนครั้งนี้ก็มาจากวิธีพิเศษ ที่มีปรากฏขึ้นจริงในผู้ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา เพื่อช่วยประชาชนชาวสยามบนถิ่นแหลมทองแห่งนี้

            ด้วย อำนาจของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยะสงฆ์สาวก และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ปกปักรักษาสยามประเทศ ได้โปรดอำนวยพรให้ท่าน และผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณา และประสบความสำเร็จในการเตรียมการรับมือกับมหาภัยพิบัติ อันจะเป็นเครื่องป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องเพื่อนร่วมโลกที่หวัง ความช่วยเหลือจากท่านเป็นจำนวนมาก และเหลือระยะเวลาเตรียมการเพียงแค่ประมาณ ๓ เดือน ในครั้งนี้ด้วยเทอญ


                                                                                              ขอเจริญพร
                                                           
ขอย้ำ !!!
เกิดแน่นอน
                                                                                                              
                                                                                       พระกัมมัฎฐาน  ปวตฺตโน
                                                                                              สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด หมู่ที่ ๙
                                                                                  ตำบลทุ่งระยะ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร

Tuesday, April 19, 2011

Microwave Cooking is Danger ? - โทษของ เตาไมโครเวฟ


อันตรายจาก เตาไมโครเวฟ Microwave Cooking is Danger ?)

*ในการให้เลือดของโรงพยาบาล ต้องเอาเลือดที่นำออกจากตู้เย็น ไปอุ่นให้ ร้อนเสียก่อน ก่อนที่จะฉีดให้คนไข้ เคยมีนางพยาบาลที่ต้องการประหยัด เวลา ใช้เตาไมโครเวฟช่วยอุ่นอุณหภูมิของโลหิตนั้น ปรากฏว่า พอฉีดเข้าในร่าง กายผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตทันที จึงเป็นที่มาของกฎข้อห้ามที่เข้มงวด ในโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาล ห้ามใช้เตาไมโครเวฟอุ่นโลหิตอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่ นั้นมา  
บนฉลากขวดนมสำหรับเลี้ยงทารก
ก็มีการระบุอย่างชัดเจนว่า ห้ามใช้เตา ไมโครเวฟต้มน้ำให้เดือด เนื่องจากคลื่นไมโครเวฟจะไปทำลายสารอาหารที่มี ประโยชน์ทั้งหมด  

ผลร้ายที่เกิดเนื่องจากไมโครเวฟนี้
มีรายงานมากมายที่ทำในประเทศรัส เซีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ แต่มีน้อยมากที่ทำในสหรัฐอเมริกา เนื่องจาก การวิจัยในสหรัฐส่วนใหญ่ จะต้องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการค้า มิฉะนั้น จะไม่ค่อยมีคนทำตาม  

*งานวิจัยชิ้นใหญ่ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์การวิจัยเกี่ยวกับเตาไมโครเวฟ  คืองานวิจัยของรัสเซียที่ค้นพบ  คาร์ซิโนเจน (Carcinogen)  หรือสารก่อมะเร็งในเนื้อสัตว์  นม  และเมล็ดธัญพืช  ที่ผ่านการหุงต้มด้วยไมโครเวฟ  ส่วนวิตามินบี  ซี  อี ตลอดจนแร่ธาตุสำคัญต่างๆ ก็ลดลงด้วย  เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากโมเลกุลในอาหารจะสั่นสะเทือนด้วยความเร็วหลาย พันล้านรอบต่อนาทีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งขั้นบวกและลบ  โมเลกุลบางส่วนเสียหาย  บางส่วนผิดรูปร่าง  บางส่วนแตกกระจายเป็นโมเลกุลหรือสารประกอบใหม่ที่ร่างกายเราไม่เคยรู้จัก

รายงานในรัสเซีย
เยอรมนี และสวิส พบว่าคลื่นไมโครเวฟ จะทำให้คลื่นสมอง ลดลง สมองเสื่อม ทำให้คลื่นสมองมีความยาวคลื่นสั้นลง ในไมโครเวฟนอกจากจะ เป็นสารก่อมะเร็งแล้ว ยังเป็นสารตกค้างที่ร่างกายขจัดไม่ได้ คลื่นในระยะ ยาวจะทำให้ฮอร์โมนเพศลดลง และเปลี่ยนแปลงทำลายเกลือแร่ต่างๆ ในผัก เปลี่ยน เป็นอนุมูลอิสระที่เป็นโทษต่อร่างกาย ยังมีคลื่นอื่นๆ อีกหลายตัวในไมโครเวฟ ที่ล้วนทำให้สารบำรุงในอาหารเปลี่ยนไป และแปรสภาพเป็นสารก่อมะเร็ง…  

*การรับประทานอาหารที่ปรุงโดยไมโครเวฟนานๆ
จะทำให้ร่างกายสะสมสารก่อ มะเร็ง เป็นจำนวนมาก เนื่องจากสารบำรุงในอาหารถูกทำลาย ก็จะทำให้ร่างกายขาด สารอาหาร ทำให้ร่างกายอ่อนแอ การรับประทานอาหารแบบนี้ในระยะยาวจะทำให้ความ จำเสื่อม ขาดพลัง  

ทางที่ดี...หากเป็นไปได้
ใช้ให้น้อยที่สุด...  


ออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดี ?

ออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดี ??
สมมุติว่า
 ตัวเราเป็นรถยนต์  เครื่องยนต์ของเราคือกล้าม เนื้อ  แขน  ขา  ที่จะทำให้เราเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้ รถยนต์ต้องการน้ำมันเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงาน  คนเราก็ต้องการอาหารเป็น พลังงานให้ร่างกาย เคลื่อนไหว ไปไหนมาไหนได้ โดยเฉพาะใช้ออกกำลังกาย
ตื่นนอนเช้ารถยนต์และร่างกายเรา ไม่มีน้ ำมัน ไม่มีพลังงานจำเป็นต้องเติมน้ำมันก่อน
 หรือกินอาหารก่อน  รถยนต์จะได้มี พลังงานวิ่งไปได้  คนเราจะได้มีพลังงานให้กล้ามเนื้อแขน ขา ทำให้เราไปไหนมาไหนได้
รถยนต์ต่างกับร่างกายเรา
 ตรงที่พอเติมน้ำมันเต็มถังแล้ว สามารถขับรถไปได้ทันที แต่คนเราหลังกินอาหารอิ่มเต็มที่ยังไปออกกำลังกายไม่ได้  เพราะหลังกินอาหาร 2 ช.ม. จะมีเลือดมารอรับอาหารที่จะถูกย่อยที่กระเพาะและลำไส้เป็นจำนวนมากหลังจาก อาหารถูกดูดซึมเข้ามาในเลือดแล้ว   เลือด จะพาสารอาหารแจกจ่ายไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ถ้าออกกำลังกายหนัก ๆ ตอนนี้ เช่น วิ่งออกกำลังซึ่งต้องการเลือดมาเลี้ยงที่ขาที่ใช้วิ่ง 20 เท่าตัวของสภาวะปกติ  เมื่อเลือดมากองอยู่ที่กระเพาะเป็นจำนวนมาก บวกกับมาเลี้ยงที่ขาอีก 20 เท่าดังกล่าว  ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ  ทำให้หน้ามืดเป็นลม  หรือถ้าทำ ให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ  เท่ากับกล้ามเนื้อหัวใจขาด เลือดเ ป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน  ถึงชีวิตได้ จึงห้ามเด็ดขาด  ห้ามออกกำลังหลังกินอาหาร 2 ช.ม.  เมื่ออาหารย่อยหมดแล้ว ดูดซึมเข้าเลือดหมดแล้ว (2 ช.ม.)  เลือดที่มารออยู่ที่กระเพาะก็จะกระจายไปหมด  ถึงตอนนี้จะวิ่งก็ ปลอดภัย

ทีนี้คนตื่นนอนตอนเช้า แล้วมาออกกำลัง เพราะตอนเช้าอากาศสดชื่น  มลพิษก็น้อย อากาศเย็น  ร่างกายยังสดชื่นเพราะได้พักมาทั้งคืน  แต่คงไม่มีใครกินอาหาร ก่อนออกกำลังแน่  เท่ากับรถยนต์ไม่ได้เติมน้ำมันรถยนต์จะวิ่งได้อย่าง ไร  แต่คนออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องกินอาหาร  เพราะตอนเย็นกินอาหารเสร็จเข้า นอน  ไม่ได้ใช้พลังงานขณะที่นอนหลับ   ตับจะปรับเปลี่ยนสารอาหาร เช่น น้ำตาลเปลี่ยนเป็นไกลโคเจน  ไตรกรีเซอร์ไรด์  ไขมันเปลี่ยนเป็นกรด ไขมัน  โปรตีนเปลี่ยนเป็นฟอสฟาเจน เป็นต้น  แล้วนำไปเก็บไว้ในอวัยวะต่าง ๆ  เมื่อตื่นนอนจึงไม่มีพลังงานหลงเหลืออ ยู่ในเลือด    เท่ากับรถยนต์น้ำมัน แห้งถัง  สภาพนี้คนออกกำลังได้โดยตับจะดึงสารอาหารที่ปรับเปลี่ยนไปเก็บไว้ ในที่ต่าง ๆ  ตอนนอนหลับ  ให้กลับเป็นสารพลังงานในเลือดใหม่  จึงสามารถออกกำลังกาย ได้  มาลองคิดดู  ตอนนอนตับทำงานหนักมาก เพื่อเอาสารอาหารไปเก็บ  ตื่นตอนเช้าไปออกกำลังกายทันที  ตับต้องดึงสาร อาหารที่เอาไปเก็บไว้เมื่อคืน ออกมาใช้ใหม่  ทำอย่างนี้บ่อย ๆ  ทุกวัน ๆ  ตับจะต้องทำงานหนักแค่ไหน  จะทนสภาพนี้ได้นานเท่าไร  เพราะไม่ได้พัก เลย  เหมือนคนกินเหล้าแล้วไม่กินอาหาร  ตับต้องไปดึงสารอาหารจากที่ต่าง ๆ  มาให้แอลกอฮอลเผาผลาญ  มาก ๆ เข้านาน ๆ เข้า  ในตับมีแต่ไขมัน  กลายเป็นตับแข็ง


ทีนี้ถ้าจะทำให้ถูกต้องก็ต้องกินอาหารเสียก่อน
 แต่ต้องรอถึง 2 ช.ม.  จึงจะไปออกกำลังได้ เช่น กินอาหาร ตี 5  เจ็ดโมงเช้าจึงจะออกกำลังกายได้  จะมีใครทำอย่างนี้บ้าง  ฉะนั้น ฝรั่งจึงมีแต่คำว่า morning walk  ไม่เคยได้ยิน morning jogging เลย  นั่นคือออกกำลังกายเบา ๆ ได้ เช่น เดิน  ก่อนเดินก็กินอาหารเบา ๆ เช่น แซนวิช  1 ชิ้น  กับโอวันติน 1 ถ้วย  ซึ่งจะใช้เวลาย่อยอาหารสัก 1/2  -  1 ช.ม.  ก็พอ  ก็จะไปเดินออกกำลังกายได้  กินเล็กน้อยออกกำลังกายเบา ๆ  ก็ใช้พลังงานน้อย  ที่กินมาแค่นี้ก็พอไหว

ลองพิจารณาการออกกำลัง ตอนเย็นบ้าง  เรากินอาหารเช้า  อาหารกลางวัน  ตกเย็นรับรองว่าพลังงานยัง เหลือเฟือ  ขณะทำงานใช้ไปไม่หมด  สามารถออกกำ ลังกายได้เลย  เหมือนกับรถ ยนต์  น้ำมันยังไม่แห้งถัง  แต่จะให้ดีอาจเติมอาหารเหมือนตอนเช้าอีกสักเล็ก น้อย  ก่อนไปออกกำลัง จะทำให้ไม่รู้สึกระโหย  ความจริงไม่ต้องไปกินอะไรเลยก็ได้   ข้อสำคัญ  เมื่อออกกำลังตอนเย็นเสร็จแล้ว  ให้ดื่มน้ำโดยค่อย ๆ ดื่มจนรู้สึกอิ่ม  กลับถึงบ้านท่านจะไม่รู้สึกหิวและไม่อยากกินอะไรอีก และหลังออกกำลังกายตอนเย็นนี้แล้ว  เมื่อถึงเวลาเข้านอน  จะเหลือสารอาหาร น้อยที่สุด  ตับไม่ต้องทำงานมาก สารอาหารไม่มีไปเก็บตามที่ต่าง ๆ  จึงไม่ทำให้อ้วน  และไม่มีสารอาหารเหลือค้างในหลอดเลือดโดยเฉพาะ ไขมัน  จึงเป็นวิธีที่จะลดไขมันในเลือดได้ดีที่สุดโดยไม่ต้องกินยา


ถ้าพิจารณาตรงนี้ ออกกำลังกายตอนเช้า หรือตอนเย็นจะเป็นการออกกำลังที่ทำให้สุขภาพทั่ว ๆ ไปดี
(แอโรบิก) เท่า ๆ กันทั้งคู่  แต่ การออกกำลังกายตอนเย็นโดยไม่ไปกินอาหารภายหลัง ยังจะช่วยให้สารอาหารที่เหลือจากการกินตอนเช้าและตอนเที่ยง น้อยลงจนไม่สามารถทำร้ายร่างกายได้ด้วย การออกกำลังกายตอนเย็นจึงได้ 2 ต่อ
จากงานวิจัยต่างประเทศ
 เร็ว ๆ นี้  พบว่า การออกกำลังกายตอนเช้านั้น จะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง  และการออกกำลังกายตอนเย็น จะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายเพิ่มขึ้น  ดูในแง่นี้ถ้าไข้หวัดระบาด  การออก กำลังกายตอนเย็นจะได้ 3 ต่อ  มีกรณีเดียวที่ออกกำลังกายตอนเช้าได้ประโยชน์คือ พวกที่มีภูมิต้านทานมากไป  เช่นโรคภูมิแพ้ได้แก่ หอบหืด  แพ้อากาศ  แพ้ฝุ่น  หรือโรคพุ่มพวงดวงจันทร์  ออกกำลังกายตอนเช้า ช่วยลดภูมิต้านทาน จึงเท่ากับช่วยให้คน ๆ นั้น กินยาลดภูมิต้านทานน้อยลงได้
สรุปมาถึงแค่นี้ ท่านคงทราบแล้วนะครับว่า ออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดี


มีข้อเสนอ อีกข้อหนึ่งคือออกกำลังกายแบบแอโรบิกก่อนนอน เช่น เดินบนสายพาน
 หรือขี่จักรยาน  30 นาที – 60 นาที  ไม่ต้องกลัวว่าจะนอนไม่หลับ เพราะการออกกำลังกายแบบแอโรบิก 30 นาที ขึ้นไปนี้ ร่างกายจะหลั่ง เอนดอร์ฟีนออกมาซึ่งมีฤทธิ์คล้าย ๆ มอร์ฟีน ที่ใช้ฉีดให้คนไข้หลังผ่าตัด  จะทำให้ง่วงนอนคลายความเจ็บปวด  คลาย เครียด  ฉะนั้น  ออกกำลังกายเสร็จ  อาบน้ำแล้ว เข้านอนเลย  ท่านจะนอนหลับสนิทชนิดไม่ฝัน  การนอนหลับสนิทนี้ท่านต้องการ การนอนเพียง 5 ช.ม.  ก็เพียงพอ  จะทราบได้คือตอนทำงานกลางวัน จะไม่เพลีย  ไม่ง่วง  แสดงว่านอนหลับสนิท 5 ช.ม. เพียงพอแล้ว  นอกจากนี้มีงานวิจัยใหม่ ๆ ออก มาพบว่า คนนอน 5 ช.ม. มีอุบัติการ โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันน้อยกว่าพวกนอน 7-8 ช.ม.
       
 ฉะนั้น  การออกกำลังกายตอนเย็นหรือก่อนนอน  ดีกว่าออกกำลังกายตอนเช้า 
บทความจากสภากาชาดไทย
:  โดย ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์เสก อักษรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สภาการชาดไทย

CLEAN YOUR KIDNEYS - สูตรล้างไต มาล้างไตกันเถอะ

วันนี้มีคนแนะนำสูตรล้างไต แบบธรรมชาติ เลยขอแนะนำต่อ ไตเป็นอวัยวะที่กรองของเสียให้ออกจากร่างกาย หากคนไหนทานเค็มมากเกินไป หรือมีสารพิษสะสมอยู่ในไต เพราะทุกวันนี้ทานอาหารนอกบ้าน หรือพวกขนมขบเคี้ยว ก็มีสารพิษอยู่เยอะ  มาลองใช้สูตรนี้กัน  วัตถุดิบหาง่ายดีด้วย
ล้างผักชีให้สะอาด (ในรูปไม่มีรากดังนั้นใช้แค่ใบและลำต้น) Parsley, Malli Leaves, Kothimbir, Dhaniya นำมาหั่นเป็นท่อนเล็กๆ ใส่ในหม้อที่มีน้ำสะอาด ต้มประมาณ 10 นาที ปล่อยจนเย็นแล้วค่อยกรอกใส่ขวดแช่ในตู้เย็น รินดื่มวันละ1 แก้ว ซึ่งจะช่วยล้างสารพิษที่อยู่ในไต แล้วคุณจะรู้สึกถึงความแตกต่าง  

ขอเตือนนะครับ สูตรนี้ใช้ได้กับคนที่เป็นปกติ ที่ยังไตไม่วาย และยังไม่ได้ล้างไตด้วยเครื่องล้างไตเท่านั้นนะครับ  เพราะ ผักชี มีเกลือโปรแตสเซียม( K ) มาก ถ้าผู้ป่วยโรคไตวายฯได้รับมากเกินไป จะทำให้ K ไปรบกวนจังหวะการเต้นของหัวใจ อันตรายจนอาจจะถึงกับหัวใจหยุดเต้นได้ครับ 
     สำหรับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องฟอกเลือด ข้อห้ามสำคัญ คือ ผักและผลไม้ เพราะอุดมไปด้วย K หรือ โปรแตสเซียม ครับ ถ้ามีญาติพี่น้องเป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ย ขอให้ ระวังด้วยครับ!!!
***แต่ ถ้าใน ผป ที่รักษาด้วยวิธี ล้างไตทางช่องท้องด้วยตัวเอง นั้น สามารทานได้ครับ ผักผลไม้  เพราะ น้ำยาล้างไต จะดูด k ผ่านเยื่อบุช่องท้องออกมาด้วยครับ***

ขอบคุณครับ
ด้วยความปราถนาดีจาก
ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายคนนึง 

Cancer and Live After Chemo - คีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิต

คีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิต ดีมาก ๆ)

หลัง จากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก 
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์ 


1. 
ทุกๆ คนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล(1,000,000,000 เซล เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษา แล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่ มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

2. 
เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

3. 
เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

4. 
เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยว 
กับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

5. 
เพื่อ เอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกัน แข็งแรงขึ้น

6. 
การทำ คีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวด เร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ 
8. การ บำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก

9. 
เมื่อ ร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมี ความซับซ้อนยิ่งขึ้น

10. 
การทำ คีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลาย พันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

11. 
วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว 

อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง 

a. น้ำตาล คืออาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น "" นิวตร้าสวีต "" "" อีควล "" "" สปูนฟูล "" ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ "" แบรก อมิโน "" หรือเกลือทะเลแทน

b. 
นม เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ ได้รับอาหาร

c. 
เซล มะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

d. 
อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ด ถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 1 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ140 องศา F ( ประมาณ 4 องศา C)

e. 
ให้ หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อ กโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง

12. 
โปรตีน จากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความ เป็นพิษมากขึ้น

13. 
ผนัง ของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น

14. 
สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สารIP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid],สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ วิตามิน เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือ กำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

15. 
มะเร็ง เป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำ สงครามกับมะเร็ง.... ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

16. เซล มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับเซล การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง

Friday, April 15, 2011

The Sa Leng Race (Thai 3-wheel motorcycle) แข่งขับซาเล้ง

มาดูการแข่งขันขับซาเล้ง (มอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง) กันครับ ช่วงสงกรานต์ได้มีโฮกาศเดินทางไปเที่ยวแถวฉะเชิงเทรามาครับ ที่วัดกลาราษฎร์บำรุง มีการประเพณีการแข่งขันมอเตอร์ไซต์พ่วงข้าง หรือรถซาเล้งด้วยครับ


VDO - The Sa Leng Race (Thai 3-wheel motorcycle)


VDO - The Sa Leng Race (Thai 3-wheel motorcycle) 2
คนขับกำลังเอารถเข้าสู่จุด start
กรรมการที่คุมอยู่จุด Start

มาเข้าที่ก่อนออก

เริ่มต้นแล้วครับ ออกตัวแรงจริง ดูจากฝุ่น

กำลังเข้าโค้งฝุ่นตลบเลยครับ



อะไรกันนี้มาเดินตรงนี้ได้ยังไง นึกว่าเป็นที่วิ่งเล่นรึไง

Pretty หรือ ผู้จัดการทีม
ถ้วยรางวัลของผู้ชนะครับ ไม่ธรรมดานะนี้

ป้ายรายละเอียดของงานครับ
กิจกรรมแบบนี้ก็จะมีให้เห็นทุกปีครับ จัดกันมาต่อเนื่องหลายปีแล้ว ถ้าใครว่างๆก็รอช่วงสงกรานต์ปีหน้าที่ " วัดกลางราษฎร์บำรุง " จังหวัด ฉะเชิงเทราได้นะครับ

Popular Posts